วิธีการติดตั้งไม้พื้นลามิเนต
สิ่งที่ควรรู้ของไม้พื้นลามิเนต
1.ไม้พื้นลามิเนต ทนต่อรอยขีดข่วน หรือกระทั่งกรงเล็บของสัตว์เลี้ยง
2.ไม้พื้นลามิเนต ทนต่อแรงตกหรือกดกระแทก
3.ไม้พื้นลามิเนต ทนความร้อนของก้นบุหรี่ และคราบนิโคตินสามารถเช็ดออกได้โดยง่าย
4.ไม้พื้นลามิเนต ไม่เป็นคราบ สามารถเช็ดออกได้
5.ไม้พื้นลามิเนต สีและลายไม่ซีดจาง แม้จากการตากโดยตรงก็ตาม
6.ไม้พื้นลามิเนต ดูแลรักษาความสะอาดง่าย และทนต่อน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ที่ใช้ภายในบ้าน ไม่สามารถทำให้ผิวหน้าเป็นรอยได้
7.ไม้พื้นลามิเนต ปลอดภัยเนื่องจากพื้นไม้ลามิเนตไม่มีขั้นตอนการผลิตที่ต้องใช้สาร Dioxins จึงปลอดภัยต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และด้วยพื้นผิวที่สะอาดถูกสุขอนามัยไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้
8.ไม้พื้นลามิเนต แข็งแรงมาก แม้การเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ทำให้เกิดรอย (สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำเมื่อวางของหนักๆ บนพื้นก็ใช้สักหลาด รองส่วนที่สัมผัสกับพื้นเท่านั้น)
9.ไม้พื้นลามิเนต ติดตั้งได้ง่ายและเร็ว สามารถติดตั้งทับบนพื้นเดิมได้ง่าย
การเตรียมพื้นผิวก่อนติดตั้งไม้พื้นลามิเนต
1.ตรวจสภาพความเรียบร้อยของพื้นผิวก่อนทำการปู จะต้องเรียบ เสมอกัน แข็งแรงสะอาดปราศจากเม็ดกรวดและได้ระดับ หากระดับเกิน 2 มม. ต่อ 1 ตารางเมตร ต้องปรับระดับก่อน
2.ตรวจสอบความสูง-ต่ำ ของพื้น โดยใช้ฆ้อนตอกตะปูที่กลางห้อง แล้วผูกด้วยเชือกวัดระดับดึงให้ตึงแล้ววางทาบกับพื้นในระดับสายตา ให้ทั่วทั้งห้อง ตรวจสอบระดับพื้นผิวสูงต่ำต้องไม่เกิน 2 มิล
3.ควรเตรียมพื้นปูนเป็นปูนฉาบเรียบ พื้นต้องแห้งสนิทไม่มีความชื้น หากเป็นพื้นที่เทคอนกรีตใหม่ต้องทิ้งพื้น ไว้อย่างน้อย 20 วัน
4.ควรวางระบบกำจัดปลวก
5.ตรวจสอบสภาพห้องต้องไม่มีน้ำรั่วซึมบริเวณพื้นและผนังรอบพื้นห้อง
6.ถ้าพื้นเดิมเป็นวัสดุหินอ่อน หินแกรนิต กระเบื้อง หินขัด ปาร์เก้ หรือกระเบื้องยาง และยังอยู่ในสภาพดี
ไม่มีการหลุดร่อนหรือมีปัญหา สามารถปูพื้นไม้ลามิเนตทับได้
7.เมื่อติดตั้งแล้วควรเข้าอยู่ทันทีหรือภายใน 15 วัน หากไม่สามารถเข้าอยู่ได้ภายใน 15 วัน ควรให้ภายในห้องที่ติดตั้งพื้นไม้ลามิเนต มีอากาศถ่ายเท อาทิเช่น เปิดหน้าต่างอย่างน้อย 8 ชม./วัน หรือเปิดเครื่องปรับอากาศอย่างน้อย 5 ชม./วัน
การดูแลรักษาไม้พื้นลามิเนต
1.หลังจากที่ติดตั้งไม้พื้นลามิเนตเสร็จแล้ว ควรให้เวลาไม้พื้นลามิเนตปรับอุณหภูมิ และความชื้นตามสภาพของห้องก่อน เพื่อให้การเข้าล็อค ของลิ้นร่องไม้พื้นลามิเนตแต่ละแผ่นเข้ากันได้ดี
2.การทำความสะอาดไม้พื้นลามิเนตนั้น ห้ามใช้ไม้ถูพื้นที่ชุ่มน้ำโดยเด็ดขาด ควรใช้ไม้ถูพื้นที่บิด จนหมาด หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นอาทิตย์ละครั้ง เนื่องจากไม้พื้นลามิเนตจะไม่มีฝุ่นเกาะ
3.ห้ามทำความสะอาดพื้นด้วยผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาดพื้นที่มีส่วนผสมของน้ำ
4.ไม่ควรให้ไม้พื้นลามิเนตโดนฝนสาด หรือมีน้ำเจิ่งนองบนพื้น เช่นน้ำจากเครื่องปรับอากาศเนื่องจากความชื้นจะทำให้ไม้พื้นลามิเนตขึ้นตะเข็บ หรือเกิดบวมขึ้นได้
5.ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดเท้า ที่เป็นวัสดุแข็ง มีคม อาจจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนพื้นได้ ควรใช้ผ้า เช็ดเท้าชนิดที่เป็นสักหลาด
6.การใส่รองเท้าเดินบนไม้พื้นลามิเนต ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าที่มีส้นตะปู หรือรองเท้ากอล์ฟ เพราะอาจจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้
7.การเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ที่มีน้ำหนักมากๆ ควรใช้สักหลาดหรือผ้ายางวางรองขาเฟอร์ นิเจอร์ก่อนทุกครั้ง
ขั้นตอนการปูไม้พื้นลามิเนต
1. การตรวจสอบสภาพความพร้อมของผิวพื้น โดย
- ให้ทำความสะอาดด้วยการใช้เครื่องดูดฝุ่น อย่าให้มีเม็ดหิน หรือวัสดุใดอยู่บนพื้น
- ถ้าเป็นพื้นผิวปูน ต้องมีลักษณะขัดเรียบ ระดับต่างกันไม่เกิน 5 มม. ถ้าระดับต่างกันมาให้แก้ไขโดยปรับระดับด้วยปูน, เจียร์หรือสกัดส่วนนูนออก, ใช้พื้นสำเร็จรูปจำพวกแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์
- พื้นผิวที่มีวัสดุเดิม เช่น หินขัด, หินอ่อน, กระเบื้องเซรามิค, กระเบื้องยาง, พื้นไม้ปาร์เก้ที่มีลักษณะราบเรียบไม่หลุดร่อน สามารถปูทับได้
- พื้นผิวที่มีวัสดุเดิม แต่มีการหลุดร่อน, ปลวกกิน หรือมีความชื้น ควรรื้อถอนและปรับพื้นผิวปูนก่อน
- ถ้าพื้นเดิมปูพรม ควรรื้อออก, ทำความสะอาดพื้น และตรวจสอบสภาพพื้นก่อนปู
2. การตรวจสอบความชื้นของพื้นที่ปู โดยพื้นห้องควรมีความชื้นไม่เกิน 8% โดยใช้เครื่องวัดความชื้นบริเวณพื้นหน้าที่ปู
- กรณีต้องการให้พื้นปูนแห้งเร็ว ควรใช้ Spot-light หรือใช้ปูนฉาบสำเร็จชนิดแห้งเร็ว
- กรณีเทปูนทรายปรับหน้าพื้นคอนกรีต ควรทิ้งช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์
3. คำนวณพื้นที่ห้องเพื่อกำหนดการวางแนวในการปูพื้น โดยคำนวณให้เศษเหลือน้อยที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปจะกำหนดการปูเป็น 2 รูปแบบคือ
- การปูแบบต่อเนื่องหรือก่ออิฐ การปูลักษณะนี้จะต้องเผื่อไม้พื้นที่ต้องใช้ให้มากกว่าพื้นที่จริง ประมาณ 10%
- การปูแบบต่อเนื่อง การปูลักษณะนี้จะต้องเผื่อไม้พื้นที่ต้องใช้ให้มากกว่าพื้นที่จริงประมาณ 3-5%
- สำหรับการคำนวณพื้นที่ ที่ไม่ใช่รูปทรงสี่เหลี่ยมเช่นวงกลมหรือสามเหลี่ยม พื้นที่ลักษณะดังกล่าวจะใช้ ไม้พื้นมากกว่าพื้นที่จริงประมาณ 30-40%
4. ปูผิวชั้นแรกด้วย P.E โฟม โดยให้ด้านที่เป็นพลาสติกอยู่ด้านล่างสัมผัสพื้นและปิดรอยต่อด้วยเทปกาว ห้ามให้เกยกันเด็ดขาด
5. ตรวจสอบการเปิดปิดประตู เมื่อปูพื้นเสร็จแล้วประตูต้องห่างจากพื้นปูประมาณ 20 มม. (ต้องทำประตูให้เสร็จก่อนปูพื้นเสร็จ)
|
6. เริ่มต้นปูต้องเริ่มจากซ้ายไปขวา การประกอบแผ่นที่ 2 เข้ากับแผ่นแรก โดยเอียงประมาณ 45 องศา แล้วกดลงเพื่อให้ไม้เข้าล๊อค
7. การปูต้องต่อพื้น 2 แถวแรกให้เป็นเส้นตรง และแถวที่1และ แถวที่2 ต้องเหลื่อมกันอย่างน้อย 30 ซม.สลับกันไปโดยตลอด สำหรับบริเวณขอบผนัง ควรใช้ตัวกั้นที่มีความหนา 10-15 มม. กั้นระหว่างพื้นไม้กับผนัง เพื่อเว้นระยะให้ไม้ขยายตัว
8. การปูต้องต่อพื้น 2 แถวแรกให้เป็นเส้นตรง และแถวที่1และ แถวที่2 ต้องเหลื่อมกันอย่างน้อย 30 ซม.สลับกันไปโดยตลอด สำหรับบริเวณขอบผนังควรใช้ตัวกั้นที่มีความหนา 10-15 มม. กั้นระหว่างพื้นไม้กับผนัง เพื่อเว้นระยะให้ไม้ขยายตัว
9. กรณีผนังที่เอียงมาก ให้เว้นห่างจากผนังโดยจุดที่แคบที่สุดต้องมีระยะห่างจากผนัง 30 มม. และจุดที่กว้างสุดต้องไม่เกิน 18.5 มม.
10. การต่อไม้พื้น ให้ต่อชนชิดด้านหัวก่อน เมื่อต่อเสร็จทุกแถว ต้องใส่ตัวกั้นที่มีความหนา 10-15 มม. กั้นให้แน่นทุกแถวเพื่อกันการขยับตัวหนีและเว้นระยะให้ไม้พื้นขยาย ตัว
11. ปูพื้นต่อไปจนสุดห้อง แถวสุดท้ายให้วัดระยะห่างถึงผนัง มีระยะเท่าไรลบออก 10 มม. แล้วตัดขนาดใส่จนเต็มพื้นที่ พร้อมใส่ตัวกั้นให้ครบทุกจุด
12. การติดบัวผนัง ตัวจบ ธรณีประตู สามารถใช้ได้ทั้งแบบใช้อุปกรณ์ โดยใช้แม๊กซ์ยิงปูน หรือการใช้กาวยางสังเคราะห์อเนกประสงค์แรงยึดสูง
- ความยาวบัวผนังที่ใช้ ให้วัดทุกด้านของห้อง รวมทั้งขอบของเสา
- ตัวจบต่างระดับ,ตัวจบระดับเดียวกัน, ตัวจบธรณีประตู ให้วัดตามความยาวจริงของพื้นที่ที่ติดตั้ง
13. การใช้กาวยางสังเคราะห์อเนกประสงค์แรงยึดสูง สามารถยึดติดกับวัสดุต่างๆ เช่น คอนกรีต อลูมิเนียม กระจก หินอ่อน หรือวัสด ุที่มีผิวเรียบมัน
- สามารถใช้กาวร้อนช่วยยึดให้บัวและผนังยึดติดกันเร็วขึ้น
|
14.ใช้ซิลิโคนชนิดใส ระขอบบัวด้านล่างกับพื้นให้ใช้เฉพาะตำแหน่งที่มีความห่างกันมากหรือบริเวณหน้าห้องน้ำ ห้ามยาซิลิโคนตลอดแนว เพื่อที่ด้านใต้ของพื้นสามารถมีการถ่ายเทอากาศได้
15. ใช้ซิลิโคนชนิดสีขาว ระหว่างขอบบัวด้านบนกับผนัง เฉพาะจุดที่มีความห่างเท่านั้น
16. ใช้ซิลิโคน(ชนิด Gap Filler) ผสมสีฝุ่นสำหรับอุดและโป๊วพื้น ธรณี หรือจุดที่มีความห่าง
|